การหกล้มของท่านอาจเปลี่ยนชีวิตทุกคนในครอบครัว
- Wanida Butkhot
- 25 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
การหกล้ม...ไม่ใช่เรื่องเล็กของผู้สูงวัย
การดำเนินชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงและมีความสุขเป็นสิ่งที่ทุกท่านปรารถนา แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามและเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สูงอายุคือ "การหกล้ม"
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการหกล้มในผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บ พิการ และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหัก ศีรษะกระแทก หรือแม้แต่การสูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอิสระของผู้สูงอายุโดยตรง
การหกล้มของท่านอาจเปลี่ยนชีวิตทุกคนในครอบครัว
ความเสี่ยงและผลกระทบของการหกล้มจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 65 ปี: เริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อายุ 75 ปี: พบการหกล้มบ่อยและรุนแรงมากขึ้น
อายุ 80 ปี: มีความเสี่ยงต่อการหกล้มและการบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกสะโพกหัก ซึ่งอาจนำมาสู่การนอนติดเตียงได้
ช่วงเวลาที่หกล้มบ่อย ช่วงเวลาเหล่านี้เป็นช่วงที่ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการหกล้มมากเป็นพิเศษ
ช่วงเช้า (06:00 – 09:00 น.): ช่วงตื่นนอน ลุกจากเตียง หรือรีบเข้าห้องน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากภาวะความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่าทาง (Orthostatic Hypotension)
ช่วงกลางคืน (21:00 – 03:00 น.): การลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกโดยไม่เปิดไฟ หรือเกิดจากอาการง่วงซึมจากยานอนหลับหรือยาคลายเครียด

ทำไมผู้สูงอายุถึงเสี่ยงต่อการหกล้มมากขึ้น?
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้ เช่น การทรงตัวไม่ดี สายตาพร่ามัว โรคประจำตัว หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
ป้องกันได้ มาลองฝึกกัน
อย่างที่บอกไปว่าการหกล้มอาจเกิดจากความไม่แน่นอน แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการฝึกฝนง่าย ๆ ดังนี้
หาที่จับให้มั่นคง ยืนเท้าชิด 60 วินาที: การฝึกยืนเท้าชิดจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และฝึกระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัว
ยืนเท้าชิด หลับตา 30 วินาที: การหลับตาจะช่วยฝึกการทรงตัวโดยตัดการใช้สายตาออกไป ทำให้ร่างกายต้องพึ่งพาประสาทสัมผัสอื่น ๆ มากขึ้น
ยืนต่อเท้า ขวาอยู่หน้าซ้ายอยู่หลัง 30 วินาที แล้วสลับกัน: ท่านี้จะช่วยฝึกการทรงตัวในขณะที่ฐานแคบลง ซึ่งเลียนแบบการเดินจริง ทำให้การเดินมีความมั่นคงมากขึ้น
เรื่องราวที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น….นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ อากง 90 ปี เริ่มฝึกเดินได้ 2 เดือน จากเดิมที่ต้องใช้ Walker ก็เปลี่ยนมาใช้ไม้เท้า ฝึกการทรงตัวจนเดินได้มั่นคงและคล่องขึ้น อากงก็ไม่ประมาท เดินช้า ๆ แต่โลกนี้ไม่มีความแน่นอน... อากงเดินสะดุดไม้เท้า หกล้ม ก้นกบแตก แขนถลอกมีแผลเปิด และหมอบอกข่าวร้ายซ้ำว่าแผลติดเชื้อ เรื่องราวของอากงเป็นอุทาหรณ์ที่บอกเราว่าการหกล้มอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะระมัดระวังแล้วก็ตาม การมีแผนรองรับและการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ |
กายภาพบำบัด...อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ
การทำกายภาพบำบัดมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและฟื้นฟูผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงหรือเคยมีประสบการณ์การหกล้ม นักกายภาพบำบัดจะทำการประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวและการทรงตัวของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด จากนั้นจะออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหว
คลินิกกายภาพบำบัด สุมา ตลิ่งชัน พร้อมดูแลคุณ
ที่คลินิกกายภาพบำบัด สุมา เรามีทีมงานนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุ เราเข้าใจถึงความกังวลและความต้องการของคุณ และพร้อมมอบการดูแลที่อบอุ่น เป็นกันเอง และมีประสิทธิภาพ ด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดเฉพาะบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่าปล่อยให้การหกล้มมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของคุณ
ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สกายภาพบำบัดสำหรับผู้สูงอายุได้แล้ววันนี้!
ติดต่อ:
เบอร์โทรศัพท์: 064-565-9554
Line:@sumaclinic
Facebook: คลินิกกายภาพบำบัด สุมา ตลิ่งชัน แก้ปวดหลัง มือชา ออฟฟิศซินโดรม
อ้างอิง



ความคิดเห็น